• หมวดอาหาร: อาหารคาว (เครื่องจิ้ม)
• คุณลักษณะอาหาร: จัดอยู่ในอาหารประเภทเครื่องจิ้ม มีส่วนประกอบของกะทิ ทำให้น้ำข้น ปรุงรสเปรี้ยว เค็ม หวาน รับประทานคู่กับผักสด เช่น แตงกวา มะเขือชนิดต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากจะใช้เต้าเจี้ยวในการทำหลนแล้ว ยังสามารถใช้เครื่องปรุงที่มีรสเค็มเช่น ปลาร้า ปลาเค็ม ปูเค็ม แทนได้ เต้าเจี้ยวหลนที่มีรสอร่อยต้องเลือกเต้าเจี้ยวที่หมักได้ที่ เมล็ดถั่วเหลืองจะนุ่ม มีกลิ่นหอม เนื้อเต้าเจี้ยวจะเป็นเนื้อเดียวกันเมื่อโขลก นำมาผสมกับกะทิและหมูบดจะเข้ากันได้ดี
• เทคนิคการประกอบอาหาร:
• ควรใช้มะพร้าวขูดขาว จะทำให้น้ำหลนขาว
• การโขลกเต้าเจี้ยวตวรโขลกให้ละเอียดส่วนผสมเมื่อปรุงสุกจะได้มีลักษณะเนียน
• สามารถนำหมูสับและกุ้งสับ มาละลายกับกะทิก่อนเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดีก่อน
• ระมัดระรังเต้าเจี้ยวที่ได้มาอาจเค็มมากควรล้างก่อน การโขลก
• พริกชี้ฟ้าไม่ควรหั่นชิ้นใหญ่มาก เพราะจะได้ง่ายต่อการรับประทาน
• ข้อแนะนำในการรับประทาน: การรับประทานเต้าเจี้ยวหลน สำหรับผู้สูงอายุ ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังอาหารที่มีส่วนผสมของกะทิ อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ แต่สามารถเปลี่ยนจากกะทิเป็นน้ำนมถั่วเหลือง เพื่อสุขภาพที่ของผู้สูงอายุ แต่ถ้าไม่มีโรคประจำตัวอะไรก็สามารถรับประทานได้ตามปกติการรับประทานเต้าเจี้ยวหลน ได้โปรตีนจาก ถั่วเหลือง หมู กุ้ง และไข่ไก่ ซึ่งเป็นโปรตีนที่มาจากหลากหลายแหล่ง มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และประกอบกับการรับประทานกับข้าว ผักสดต่างๆ ยิ่งทำให้มีคุณค่าเพิ่มมากขึ้นอีก

เครื่องปรุง

• ขั้นตอนที่ 1

  โขลกเต้าเจี้ยวขาวให้ละเอียด โขลกหอมแดง

• ขั้นตอนที่ 2

  ละลายลงในกะทิที่เคี่ยว ใส่กุ้งสับและหมูสับ คนพอเข้ากัน

• ขั้นตอนที่ 3

  ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และเกลือป่น

• ขั้นตอนที่ 4

  ใส่พริกชี้ฟ้าลงต้ม พอสุก ยกลง รับประทานกับผักสด เช่น มะเขือเปราะ ขมิ้นขาว แตงกวา ฯลฯ

เครดิตสูตรอาหาร จากเว็บไซต์ https://www.foodnetworksolution.com